3 แบรนด์ชั้นนำด้าน Video Conference ที่น่าจับตามองในปี 2024

3 แบรนด์ชั้นนำด้าน Video Conference ที่น่าจับตามองในปี 2024

ในยุคที่การทำงานทางไกลกลายเป็นความปกติใหม่ ระบบ Video Conference ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก ที่สามารถทำให้ทุกคนเข้าถึงกันได้จากทุกที่ ทุกเวลา ลดข้อจำกัดเรื่องสถานที่ การเดินทาง และระยะเวลาได้เป็นอย่างดี ว่าแต่แบรนด์ Video Conference มีอะไรบ้าง? 

วันนี้ Exzy จะพาไปรู้จักกับ 3 แบรนด์ชั้นนำ ด้าน Video Conference ที่น่าจับตามองในปี 2024 และมีหลายองค์กรเลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น Neat, Logitech และ Yealink ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป

1. Neat

Neat- video conference

แบรนด์น้องใหม่สัญชาติอมเริกาที่มาแรงในวงการ Video Conference โดดเด่นการออกแบบที่ทันสมัย และใช้งานง่าย ด้วยดีไซน์ของ Neat ที่สวยงาม ก็ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์

จุดเด่น
  • ติดตั้งและใช้งานง่าย
  • ดีไซน์ทันสมัย เรียบหรู
  • มีระบบ AI ช่วยในการจัดภาพและเสียงอัตโนมัติ
  • รองรับการทำงานร่วมกับ Zoom และ Microsoft Teams
ผลิตภัณฑ์เด่นของ Neat ที่จะมาแรง

ZVC 400 on Windows

video conference01

MeetingBar A10 on Android

MeetingBar A20 on Android

2. Logitech

อีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในวงการอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน Logitech มีสินค้าที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่การใช้งานส่วนบุคคลไปจนถึงห้องประชุมขนาดใหญ่

จุดเด่น
  • มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ และราคา
  • คุณภาพเสียง และภาพระดับมืออาชีพ
  • มีเทคโนโลยี RightSense™ ที่ช่วยปรับแต่งภาพ และเสียงอัตโนมัติ
  • รองรับการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Video Conference ชั้นนำหลายราย
ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ Logitech ที่จะตอบโจทย์

3. Yealink

video-conference-BYOD1

Yealink แบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารชั้นนำจากประเทศจีนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่เน้นนำเสนอโซลูชัน Video Conference ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้

จุดเด่น
  • มีสินค้าหลากหลายรูปแบบ และราคา
  • คุณภาพเสียง และภาพระดับมืออาชีพ
  • มีเทคโนโลยี RightSense™ ที่ช่วยปรับแต่งภาพ และเสียงอัตโนมัติ
  • รองรับการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Video Conference ชั้นนำหลายราย
ผลิตภัณฑ์แนะนำของ Yealink สำหรับ Video Conference

MeetingBar A20

MeetingBar A30

MVC 860

เทรนด์และความก้าวหน้าของ Video Conference ในปี 2024

  1.  AI และ Machine Learning: ระบบจะฉลาดขึ้น สามารถลดเสียงรบกวน ปรับแสงอัตโนมัติ และแปลภาษาแบบเรียลไทม์
  2. เทคโนโลยี AR และ VR: การประชุมเสมือนจริงจะสมจริงมากขึ้น ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องเดียวกัน
  3. 5G และ การเชื่อมต่อความเร็วสูง: การประชุมจะมีความละเอียดสูงขึ้น ไม่มีการหน่วง แม้ในพื้นที่ห่างไกล
  4. ระบบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งขึ้น: การเข้ารหัสแบบ End-to-end และการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์จะเป็นมาตรฐานใหม่
  5. รองรับกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ: Video Conference จะเชื่อมต่อกับระบบ CRM, Project Management และ Cloud Storage ได้อย่างไร้รอยต่อ

ผลกระทบต่อธุรกิจและการทำงานระยะไกล

เห็นได้ชัดว่า เทคโนโลยี Video Conference ได้ปฏิวัติวงการธุรกิจ ทำให้การทำงานทางไกลมีประสิทธิภาพมากขึ้น องค์กรที่ปรับตัวเร็วจะได้เปรียบในการแข่งขัน ขณะเดียวกันพนักงานต้องพัฒนาทักษะการสื่อสารผ่านวิดีโอ และการทำงานแบบยืดหยุ่น ซึ่งวัฒนธรรมองค์กรจะเปลี่ยนไปเน้นผลลัพธ์มากกว่าสถานที่ทำงาน

ในขณะเดียวกันการเลือกระบบ Video Conference ที่เหมาะสมนั้น ต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งคุณภาพภาพและระบบเสียง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง รวมถึงจำนวนผู้เข้าร่วมที่รองรับ ฟีเจอร์การใช้งาน และการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น แบรนด์อย่าง Neat, Logitech และ Yealink มีจุดเด่นแตกต่างกัน การตัดสินใจขึ้นอยู่กับขนาดองค์กร ลักษณะการใช้งาน และงบประมาณ

หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ Video Conference ที่ทันสมัย และตอบโจทย์การใช้งานยุค Digital Exzy เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และทีมผู้เชี่ยวชาญของเราเองได้ใบรับรองมาตรฐานจากแบรนด์ Yealink เราพร้อมออกแบบโซลูชัน และให้คำแนะนำสำหรับองค์กรของคุณ การันตีด้วยความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำกว่า 350+ บริษัท มั่นใจเลือกใช้บริการของเรา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถ Inbox มาได้ที่ Smart Office Solution by Exzy  โทร. 095-919-1963 หรือ อีเมล: contact@exzy.me

Related Posts