องค์กรทั่วโลกเริ่มปรับภาพของ “สำนักงาน” ใหม่ทั้งหมด จากเดิมที่เป็นพื้นที่สำหรับมานั่งทำงานหน้าโต๊ะตลอด 8 ชั่วโมง กลายเป็นสถานที่ของ Collaboration, Video Conference, Focus Work และ Creative Discussion แทนพนักงานในองค์กรใช้เวลาประชุม และสื่อสารออนไลน์สูงขึ้นกว่า 55% หลังยุค Hybrid Work ส่งผลให้ห้องประชุมแบบดั้งเดิมเริ่มไม่เพียงพอ หรือบางองค์กรกลับใช้ไม่คุ้ม เพราะพื้นที่ใหญ่เกินความจำเป็นสำหรับประชุมออนไลน์เพียง 1–2 คน และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ ห้องประชุมแบบก่อสร้างถาวร เริ่มถูกตั้งคำถามพร้อม ๆ กันกับการเติบโตของ ห้องเก็บเสียงสำเร็จรูป (Office Booth / Meeting Pod) ที่ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายได้และใช้งานได้คุ้มค่ากว่าในระยะยาว 3 เหตุผลที่องค์กรกำลังเปลี่ยนจากการสร้างห้องประชุม มาใช้ห้องเก็บเสียงสำเร็จรูป 1)...

ในช่วงหลัง COVID-19 ตั้งแต่ปี 2020–2025 รูปแบบการทำงานเปลี่ยนผ่านไปสู่ Hybrid Work อย่างรวดเร็ว พนักงานประชุมผ่าน Video Conference มากขึ้น ใช้ Collaboration Tools เป็นศูนย์กลาง และออฟฟิศกลายเป็นพื้นที่ที่ต้องรองรับกิจกรรมหลากหลายมากกว่าสมัยก่อน ปี 2026 จึงถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนของ Workplace ที่เน้น “ความเงียบ” และ “โฟกัส” มากกว่าเดิม หรือที่หลายองค์กรเรียกว่า Quiet Workspace ออฟฟิศที่ออกแบบมาเพื่อลดเสียงรบกวน และสร้างสภาพแวดล้อมให้พนักงานทำงานแบบ Deep Work ได้จริง หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของ Quiet Workspace คือ ห้องทำงานเก็บเสียง (Meeting...

หลายคนอาจจะเริ่มตั้งคำถามเหมือนกันว่า ทำไมออฟฟิศยุคใหม่ถึงมีพนักงานที่ไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะประจำแล้ว? เพราะพฤติกรรมการทำงานเปลี่ยนไป การทำงานที่มีรูปแบบเปลี่ยนไปให้เหมาะกับงาน ไม่ว่าจะเป็นช่วงประชุมออนไลน์ หรือช่วงเวลาที่เราได้นั่งโฟกัสงานเงียบ ๆ คนเดียว แนวโน้มนี้ผลักดันให้หลายองค์กรเริ่มออกแบบพื้นที่ใหม่ และหนึ่งในรูปแบบที่เติบโตเร็วที่สุดคือ ห้องทำงานส่วนตัว (Private Workspace) ในออฟฟิศบทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า ทำไม “ห้องทำงานส่วนตัว” ถึงกำลังเป็นเทรนด์หลักในออฟฟิศยุค Hybrid Work และกลุ่มองค์กรแบบไหนควรเริ่มใช้ รวมถึงตัวอย่างใช้งานจริงที่ช่วยเพิ่ม Productivity และการจัดการพื้นที่ในองค์กร Hybrid Work เปลี่ยนรูปแบบออฟฟิศ ห้องประชุมใหญ่ไม่ใช่คำตอบเสมอไป ก่อน Hybrid Work พนักงานอยู่ในออฟฟิศทุกวัน การประชุมส่วนใหญ่เป็นแบบเจอหน้ากัน และการมีห้องประชุมขนาดใหญ่ถือว่าเพียงพอ แต่วันนี้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปแล้ว 62% ของพนักงานประชุมออนไลน์มากกว่าสมัยก่อน การประชุม 1:1 หรือใช้ห้องทำงานคนเดียวมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ออฟฟิศไม่ได้ใช้งานเต็มพื้นที่เหมือนเดิม...

ในช่วง 3–5 ปีที่ผ่านมา รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว—จากการทำงานแบบออฟฟิศเต็มรูปแบบ (Onsite) สู่ Hybrid Work และกำลังก้าวต่อไปสู่ “Smart Workplace Era” ซึ่งเทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยจัดการทุกขั้นตอนของการทำงาน ตั้งแต่การจองพื้นที่ การประชุม ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาปรับการใช้งานออฟฟิศแบบเรียลไทม์ ปี 2026 ถูกมองว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ Future of Work เพราะองค์กรใหญ่ทั่วโลกเริ่มกำหนดนโยบายใหม่ เช่น การกลับเข้าออฟฟิศ (Return-to-Office) การลงทุนใน Smart Office Infrastructure การใช้ Workplace Analytics เพื่อบริหารพื้นที่ การสร้าง Employee Experience เป็นกลยุทธ์หลักของ HR องค์กรที่ปรับตัวทันจะได้เปรียบทันที ทั้งในด้านประสิทธิภาพ...

Exzy เราในฐานะผู้ให้คำปรึกษา ออกแบบ และติดตั้งระบบ Smart Office ในองค์กรชั้นนำของไทย เราเห็นการเปลี่ยนผ่านของ “วิธีทำงาน” อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคที่ทุกคนมีโต๊ะประจำและประชุมในห้องเดิมทุกวัน จนถึงยุคที่คนทำงานจากทุกที่ได้เพียงคลิกเดียว จากองค์กรที่เริ่มต้นด้วยระบบจองห้องประชุมสู่การออกแบบ Smart Office Solutions แบบครบวงจร ตั้งแต่ล็อกเกอร์อัจฉริยะ, ระบบจองโต๊ะทำงาน (Hot Desk), ระบบ Video Conference ที่เชื่อมคนทั้งองค์กรให้ทำงานร่วมกันได้แม้อยู่ต่างสถานที่เราพบว่าคำถามที่ลูกค้าหลายองค์กรถามเราบ่อยที่สุดคือ “เราควรออกแบบออฟฟิศให้เป็น Hybrid Work หรือ Activity Based Working ดี?” คำถามนี้ไม่มีคำตอบเดียว เพราะทั้งสองแนวคิดมีรากฐานที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเข้าใจอย่างถูกต้อง ทั้งคู่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ทำความรู้จัก Activity Based Working ทำไมแนวคิดนี้ได้รับความนิยม Activity Based Working (ABW) คือแนวคิดการออกแบบสถานที่ทำงานที่ให้พนักงานเลือกพื้นที่ทำงานตามประเภทของกิจกรรมที่กำลังทำอยู่...

ในยุคที่คนรุ่นใหม่ (Gen Z / Millennials) ให้ความสำคัญกับสุขภาพ จิตใจ และแวดล้อมการทำงานอย่างมาก การออกแบบออฟฟิศแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป “Biophilic Tech” หรือการผสานธรรมชาติ (Nature) เข้ากับเทคโนโลยี (Technology) จึงกลายเป็นโอกาสสำหรับองค์กรที่อยากดึงคนกลับเข้ามาออฟฟิศ และสร้าง Productivity แบบใหม่ ทำความเข้าใจ Biophilic Design และทำไมถึงสำคัญ Biophilic Design คือ แนวทางการออกแบบที่ผสานเอาธรรมชาติ (Nature) เข้ากับพื้นที่ Built Environment เพื่อให้พื้นที่ทำงานมีการเชื่อมโยงระหว่างคนทำงานกับธรรมชาติ ก็จะส่งผลทั้งทางจิตใจ และร่างกาย  ทำไมองค์กรยุค Hybrid ควรสนใจ งานวิจัย พบว่าออฟฟิศที่มีองค์ประกอบ ฺBiophilic...

ในปี 2025 โลกกำลังเผชิญกับวิกฤต Burnout ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ข้อมูลล่าสุดเผยว่า 82% ของพนักงานทั่วโลกเสี่ยงต่อ Burnout และที่น่าตกใจคือพนักงาน Gen Z และ Millennial เผชิญจุดสูงสุดของ Burnout เพียงแค่ อายุ 25 ปี เร็วกว่าคนรุ่นก่อนถึง 17 ปี [งานวิจัยจาก The Interview Guys ในปี 2025] และการศึกษาใน Southeast Asia เองก็พบว่า 62.91% ของพนักงานประสบปัญหา Burnout โดย Philippines สูงถึง 70.71%...

หลังจากหลายปีที่องค์กรทั่วโลกทดลองการทำงานแบบ Hybrid หรือ Remote ปี 2026 ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็น “ปีแห่งการกลับเข้าสู่ออฟฟิศ (Return to Work)” อย่างจริงจัง เพราะองค์กรเริ่มมองเห็นว่า การร่วมงานกันแบบเจอหน้า (Face-to-Face Collaboration) คือหัวใจสำคัญในการสร้างนวัตกรรม และความผูกพันในองค์กรแต่คำถามคือ…จะทำให้ออฟฟิศกลายเป็น Magnet ดึงดูดคนกลับมาได้อย่างไร? เทรนด์ Return to Work: ทำไมปี 2026 ถึงเป็นจุดเปลี่ยน งานวิจัยจาก JLL Future of Work Survey 2024 เผยว่า กว่า 60% ขององค์กรทั่วโลก มีแผนปรับปรุงหรือขยายพื้นที่ออฟฟิศภายใน 2 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการทำงานยุคใหม่ที่เน้น “Human-Centric Design” ในขณะเดียวกัน Pew Research...

หลังจากหลายปีของการทำงานแบบ Hybrid และ Remote Workองค์กรทั่วโลกเริ่มเจอกับคำถามสำคัญ — ทำไม “Back to Office” ถึงเป็น Challenge ของยุคนี้ แล้วต้องทำยังไงให้พนักงานอยากกลับมาออฟฟิศ? คำตอบไม่ใช่แค่ “การสั่งให้กลับมา” แต่คือ “การสร้างเหตุผลให้กลับมา” นั่นคือจุดที่แนวคิด Back to Office Experience เริ่มเข้ามามีบทบาท และเทคโนโลยี Smart Office กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้การกลับมา Onsite ไม่ใช่ภาระ แต่คือ “ประสบการณ์ใหม่ของการทำงานร่วมกัน” เข้าใจพฤติกรรมพนักงานยุคใหม่ ก่อนวางแผน Back to Office ก่อนจะเริ่มกลยุทธ์ใด ๆ องค์กรต้องเข้าใจ “พนักงานกลับมาเพื่ออะไร”...

การย้ายออฟฟิศ ไม่ใช่แค่เรื่องของการเปลี่ยนสถานที่ แต่คือจังหวะสำคัญที่องค์กรสามารถรีเฟรช วัฒนธรรมการทำงาน ปรับโครงสร้างพื้นที่ และยกระดับ Employee Experience ได้พร้อมกัน หากในอดีตการย้ายออฟฟิศอาจเน้นเพียง “ขนาดใหญ่ขึ้น” หรือ “ทำเลที่สะดวกขึ้น” แต่ในปี 2025 เทรนด์กำลังบอกเราว่า Smart Office Solution คือคำตอบที่จะทำให้การลงทุนครั้งนี้คุ้มค่า และเป็นก้าวสำคัญในการสร้างองค์กรยุคใหม่ ย้ายออฟฟิศไม่ใช่แค่เปลี่ยนที่นั่ง แต่คือการ Transform หลายองค์กรที่กำลังมองหาพื้นที่ใหม่ มักเริ่มจากโจทย์ง่าย ๆ เช่น ต้องการพื้นที่ใหญ่ขึ้น ต้องการโลเคชันที่เดินทางสะดวก แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ การย้ายออฟฟิศสามารถกลายเป็น “Opportunity Window” หรือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการอัปเกรดโครงสร้างการทำงานให้สอดรับกับยุคดิจิทัลลองนึกภาพว่าแทนที่จะย้ายออฟฟิศไปที่ใหม่แล้วเจอปัญหาเดิม ๆ เช่น ห้องประชุมไม่พอ โต๊ะทำงานไม่พอใช้ หรือการประสานงานข้ามทีมยังวุ่นวาย...